กลัวเมียมากกว่า เสือ EP1
เสือ กาลครั้งหนึ่งของหมู่บ้านแห่งหนึ่งตั้งอยู่กลางป่าชาวบ้านยึดอาชีพเกษตรกรเป็นหลักบ้างทำนาบ้างปลูกข้าวโพดแต่บางส่วนก็เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่เป็นจำนวนมากชายคนหนึ่งอาศัยอยู่กับเมีย 2 คนบ้านของทั้ง 2 ปลูกห่างออกอยู่จากคนอื่นในหมู่บ้านทั้ง 2 ยึดอาชีพทำหน้าเป็นหลัก โดยมีควายคู่ทุกข์คู่อยากอยู่ 2 ตัวฝ่ายสามีนั้นเป็นคนที่ชอบดื่มเหล้าเป็นชีวิตจิตใจเสร็จจากการทำงานทำนาเมื่อไหร่เป็นต้องร่ำสุราจนเมามายเสียแทบทุกวันยิ่งเมื่อพ้นช่วงทำนาเขาก็จะทำหน้าที่พาควาย 2 ตัวออกไปกินหญ้าที่ชายป่าไม่ไกลจากบ้านของเขานักเขาปล่อยให้ควายแทะเล็มหญ้าไปเรื่อยๆ ตัวเองก็นอนอยู่ใต้ต้นไม้อาศัยลมพัดชายป่าเย็นๆ
ร่ำสุราอย่างมีความสุขกว่าจะจูงควายกลับไปบ้านตัวก็มีแต่กลิ่นสุราไปหมดเข้าทำนองกลิ่นละมุนติดกายนั้นเองอยู่มาช่วงหนึ่งเกิดเหตุการณ์เป็ดไก่ของชาวบ้านหลายไปคืนละหลายตัวสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านไปทั่วชาวบ้านหลายคนที่เดือดร้อนจากเรื่องนี้ต่างพากันมาหารือกันว่าสัตว์เลี้ยงของตนเองที่หายไปแต่แม้ช่วยกันหารือแล้วปัญหาดังกล่าวก็ไม่มีทีท่าว่าจะหายไปจากกลายเป็นว่านอกจากเป็ดไก่แล้วบางบ้านที่โชคร้ายกับเสียวัวหรือควายไปด้วย
“ถ้าลองมันเอาวัวควายไปแบบนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่สัตว์ตัวเล็กๆ อย่างพวกตะกวดหรือตัวเงินตัวทองเสียแล้ว” ผู้ใหญ่บ้านเอ่ยขึ้นที่ประชุมของหมู่บ้าน “แล้วผู้ใหญ่ว่ามันเป็นตัวอะไรละ เสืออย่างนั้นหรือ” ลูกบ้านเอ่ยถามพอมีคนเอ่ยว่าเสือกมาก็เกิดเสียฮือฮาหวาดกลัวเกิดขึ้นทันที “เดี๋ยวใจเย็นก่อน เรายังไม่เห็นตัวที่มันก่อเหตุแน่ชัด เราจะมาฟันธงว่ามันเป็นเสือเป็นหมดหรือเป็นอะไรไม่ได้” “แล้วผู้ใหญ่จะรอให้สัตว์เลี้ยงของหมู่บ้านหายไปหมดก่อนรึยังไงเล่าถึงจะบอกได้ว่ามันเป็นตัวอะไร” ชายคนที่เสียควายไปในคือก่อนเอ่ยถามอย่างคนมีโมโห “ใจเย็นก่อนก็หมายความว่าจะให้พวกเรามาร่วมมือร่วมใจกันอยู่เวรยาม คอยเฝ้าดูรอบๆ หมู่บ้าน
ว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่ที่เข้ามาขโมยสัตว์ของพวกเราไปหากเป็นพวกสัตว์ตัวเล็กๆ พวกเราก็ช่วยกันจับ แต่ถ้าตัวมันใหญ่เกินกำลังของเราเช่น หมี หรือเสือ เราก็ต้องขอให้ท่านเจ้าเมืองส่งคนมาช่วย” ผู้ใหญ่บ้านสรุปอย่างนั้นเลยคลายความไม่สบายใจลงไปได้บ้าง “เอาหละ เอาหละ เราจะช่วยกันเฝ้าเวรยามในคืนนี้ บ้านใครที่มีเล้าเป็ดเล้าไก่ก็ให้ช่วยกันอยู่เวร อย่าได้เผลอนอนหลับเป็นอันขาด พวกที่มีวัวควายก็ให้ต้อนมารวมกันที่คอกกลางลานหมู่บ้านส่วนบ้านไหนที่ไม่สัตว์เลี้ยงก็ให้มาช่วยบ้านที่มี และแต่ละบ้านก็ให้เตรียมเกราะไม้ไป่เอาไว้เวลาที่สัตว์ร้ายนั้นโผล่มาก็ให้เคาะเกราะไม้นั้นดังๆ พวกเราทุกคนจะได้มาช่วยเหลือกัน”
คืนนั้นพวกเช่าบ้านก็ช่วยกันจัดเวรยามกันอย่างเต็มที่ แต่ก็ปรากฏว่าทุกคนเหนื่อยกันอย่างเสียเปล่าเพราะเจ้าสัตว์ร้ายตัวดังกล่าวไม่ออกมาอาละวาดล่าสัตว์ของชาวบ้านออกไปกินซะนี่ “แหม่ ไอ้นี่มันร้ายสงสัยมันจะรู้ทันเรา” ชาวบ้านที่มานั่งเฝ้าเวรยามที่มานั่งหาวหวอดๆ กันในที่ประชุมเอ่ยขึ้นอย่างเจ็บใจ “มันไม่ได้รู้ทันอะไรเราหรอกมันคงจะอิ่มนั่นแหละ วันก่อนวันลากตัวไปตัวหนึ่งไม่ใช่รึ” ผู้ใหญ่บ้านให้เหตุผลว่าทำไม่เจ้าสัตว์ร้ายถึงไม่ออกมา ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เราจะอยู่เฝ้าเวรยามกันอีกไหมล่ะผู้ใหญ่ ชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยถาม เฝ้าสิ คืนนี้มันต้องออกมาอีกแน่ๆ ผู้ใหญ่เอ่ยด้วยเสียงมั่นใจ และคืนที่ 2 ชาวบ้านก็มาอยู่เวรยามกันอีกช่วงหัวค่ำนั้นทุกอย่างสงบเรียบร้อยไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
จนเวลาล่วงเลยไปถึงตี 3 ก็เกิดเสียงวัวควายร้องกันลั่นคอกชาวบ้านที่เฝ้าอยู่รอบคอกกลางหมู่บ้านก็รีบตีเกาะเคาะไม้กันเป็นการใหญ่ทุกคนจุดคบเพลิงและพากันวิ่งมาที่คอกวัวกลางหมู่บ้าน เมื่อไฟจากคบเพลิงมารวมกันมากเข้า แสงก็สว่างไปทั่วบริเวณส่งให้เห็นว่าเจ้าสัตว์ร้ายตัวที่ออกมารบกวนกินสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านก็คือเสือลายภาสกรตัวใหญ่ มันกำลังวิ่งวนอยู่ในคอกวัวโดยที่ใกล้ๆ มันนั้นมีซากวัวที่นอนตายอยู่ทางของมันเหมือนเสือหวงเหยื่อไม่ยอมละทิ้งเหยื่อที่มันฆ่าได้ ชาวบ้านจึงรีบหยิบหาอาวุธที่มีทั้งจอบเสียม และมีดพล่าต่างๆ ขว้างปาเข้าใจมันเพราะไม่เข้าจะใกล้มันไปมากกว่านั้นอยู่ก็มีมีดขอแสนคมเล่มหนึ่งพุ่งเข้าไปปักที่สีข้างของมัน
เสือร้ายคำรามลั่นด้วยความเจ็บปวดมันรีบกระโดดข้ามรั้วคอกออกไป แล้ววิ่งกายเข้าไปในความมืดแล้ว มีเสียงร้องของชาวบ้านโห่ไล่ แล้ววิ่งตามไปข้าวอาวุธใส่มันอีกก่อนที่ทุกคนจะกลับมารวมตัวกันที่ลานกลางหมู่บ้านเมื่อเห็นว่าสัตว์ร้ายที่ก่อความวุ่นวายให้ชาวบ้านคือเสือผู้ใหญ่บ้านก็เล็งเห็นว่าเกินกำลังของชาวบ้านที่จะจัดการได้จึงตัดสินใจที่จะไปขอความช่วยเหลือจากท่านเจ้าเมือง “เรารู้แล้วว่ามันเป็นเสือ และยังตัวใหญ่มาก พวกเราคงปราบกันเองไม่ได้หรอก พรุ่งนี้ข้าจะเข้าไปในเมืองเพื่อจะไปขอความช่วยเหลือจากท่านเจ้าเมือง” “แล้วมันจะกลับมาอีกรึเปล่าละท่านผู้ใหญ่” ชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยถาม
“มันเจ็บอยู่แบบนั้นมันคงไม่กลับมาในวัน 2 วันนี้หรอก” ผู้ใหญ่บอกแต่ลูกบ้านคนหนึ่งก็ค้านออกมาทันที “ฉันละกลัวว่ามันจะอาละวาดหนักกว่าเดิมนะสิผู้ใหญ่ เข้าทำนองเสือบาดเจ็บหนักมันต้องพยายามเอาตัวให้รอด ต้องหาอาหารให้ตัวเองให้ได้คราวนี้ชาวบ้านคงไม่ต้องหลบอยู่แต่ในบ้าน ออกไปทำนาทำไร่ กันไม่ได้หรอกผู้ใหญ่” “เชื่อข้าเถอะว่ามันไม่ออกมาอาละวาดตอนนี้” ผู้ใหญ่ย้ำความมั่นใจก่อนที่จะให้ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้านส่วนใครที่ยังต้องอยู่เฝ้าเวรยามก็อยู่กันต่อไป ในขณะที่ในหมู่บ้านกำลังจะจบเรื่องชุลมุนวุ่นวายกับเรื่องเสือร้ายแต่ว่าชายขี้เมากับเมียไม่ได้รู้เรื่องนี้ด้วยเลยเหตุเพราะพวกเขนั้นปลูกบ้านออกไปไกลจากคนอื่นแถมยังติดชายป่าด้วย และไม่ได้รู้เลยว่าเสือร้านที่กระโดดหนีออกมาจากในหมู่บ้านนั้นมาหลบเลียแผลอยู่ที่ชายป่านี้เอง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรโปรดติดตามตอนต่อไป
อ่านบทความต่อไป คลิ๊ก !!! เครื่องบิน